` search.

Wednesday, January 30, 2013

กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ มัธยมศึกษาปีที่ 2
               กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือครั้งนี้ มีกิจกรรมมากมาย เริ่มที่การเดินทางไกล สำหรับเพื่อนๆคนอื่นบอกว่าเดินแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก แต่สำหรับตัวของฉันแล้วการเดินทางไกลครั้งนี้เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เพราะฉันเป็นโรคผนังหัวใจรั่ว ไม่สามารถทำอะไรหักโหมได้ แต่ฉันก็พยายามจนสามารถเดินถึง ณ จัดหมายปลายทางได้พร้อมกับเพื่อนๆในหมู่เดียวกัน เมื่อถึงครึ่งหนึ่งของระยะทางทั้งหมด ฉันเริ่มรู้สึกไม่ไหว และไม่อยากเดินอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อคิดดูอีกครั้ง ฉันไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะถ้าเพื่อนๆทุกคนสามารถทำได้ ฉันก็จะไม่เอาเปรียบเพื่อนๆ 
               การใช้ชีวิตในค่าย พวกเราต้องนำเต้นท์ไปเอง และต้องทำอาหารเองทุกๆมื้อ สองสิ่งนี้สอนฉันให้ฉันเป็นคนอดทน มีความรับผิดชอบมากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่มีผู้ปกครอง
               ส่วนฐานต่างๆในค่ายในวันที่ 2 ของการเข้าค่าย ตัวอย่างเช่น ฐานโดดหอ ฐานเชือกคู่ ฐานเชือกเดี่ยว เป็นต้น สนุกมาก ท้าทายมาก ครูฝึกส่วนใหญ่ใจดี อารมณ์ดี จึงทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเข้าค่ายสนุก 
               กิจกรรมรอบกองไฟ คืนนั้นเป็นคืนที่มีความสุขมาก นักเรียนที่แสดงความสามารถของตนได้ดีทุกๆห้อง เป็นการรีแล็คอย่างหนึ่งจากการเดินทางเข้าฐานต่างๆ ครูอบรมทุกท่านร่วมกิจกรรมนี้เป็นอย่างดี เข้ากับนักเรียนได้ดี ไม่มีเส้นกั้นระหว่างอายุของครูฝึกและนักเรียน ทุกคนที่ร่วมกิจกรรมนี้นั้นต่างเหมือนพี่น้อง
               เมื่อไม่มีอะไรทำ ฉันจะนั่งคิดถึงการเข้าค่ายครั้งนี้ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากย้อนเวลาไปอยู่ ณ ที่แห่งนั้นอีกสักครั้ง เพราะประสบการณ์เช่นนี้ไม่ได้สามารถหาได้ง่ายๆ ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนของเรามากขึ้นว่านิสัยใจคอของเพื่อนที่เรากำลังคบอยู่นั้นเป็นอย่างไร เห็นแก่ตัว หรือมีน้ำใจ ครูฝึกเป็นมิตรมาก และฉันก็คิดถึงทุกท่าน และอยากจะขอขอบพระคุณพวกท่านอีกครั้งที่ได้ถ่ายทอดความรู้การใช้ชีวิตแก่พวกเรา ฉันจะสัญญาว่าฉันจะนำสิ่งที่พวกท่านได้สั่งสอน บอกกล่าว ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น ฉันจะไม่ตื่นสาย มีระเบียบวินัยในตนเอง ว่านอนสอนง่าย

Tuesday, January 22, 2013

กิจกรรม ประจำหน่วย


กิจกรรมประจำหน่วย 


1. เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง

ตอบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคือ ระบบ ที่คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่องทำการเชื่อมต่อกัน โดยในการเชื่อมต่อจะมีสื่อกลางที่ใช้ในการส่งข้อมูล ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ทรัพยากร (Resource) ที่อยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์ แฟกซ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสค์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก นอกจากนี้ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ยังเป็นผลดีในกรณีที่ต้องการสื่อสารข้อมูลในระยะทางไกล หรือเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่อยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลกโดยใช้เวลาเพียง น้อยนิด จากเดิมที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนั้น อาจจำเป็นต้องใช้สื่อเก็บข้อมูลที่รับส่งกันภายนอก เช่น บันทึกลงแผ่นดิสก์แล้วไปส่งให้กับอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองเวลามาก ยิ่งถ้าต้องการสื่อสารกันข้ามโลกยิ่งเป็นเรื่องลำบากและใช้เวลานานมาก แต่ในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านสายสัญญาณของระบบเครือข่ายนั้น ทำให้การส่งข้อมูลทำได้ในเสี้ยววินาที
         ประโยชน์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า กลุ่มงาน (work group)  แต่เมื่อเชื่อมโยงหลายๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกัน   ก็จะเป็นเครือข่ายขององค์กร และถ้าเชื่อมโยงระหว่างองค์กรผ่านเครือข่ายแวน ก็จะได้เครือข่ายขนาดใหญ่ขึ้น  
          การประยุกต์ใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งนี้เพราะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้ 


2. การสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีวิธีการอย่างไร 

ตอบ วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index นี้ข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วย วิธีของ Search Engine โดยมันจะถูกคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Site ต่างๆออก เป็นประเภท สำหรับวิธีใช้งาน คุณสามารถที่จะ Click เลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser จาก นั้นที่หน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมาให้เลือกเยอะแค่ไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลใน Index ว่า ในแต่ละประเภท จัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด เมื่อคุณเข้าไปถึงประเภทย่อยที่คุณสนใจแล้ว ที่เว็บเพจจะแสดงรายชื่อของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากคุณคิดว่าเอกสารใดสนใจหรือต้องการอยากที่จะดู สามารถ Click ลงไปยัง Link เพื่อ ขอเชื่อต่อทางไซต์ก็จะนำเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที นอกเหนือไปจากนี้ ไซต์ที่แสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงโดยนำเอา Site ที่มีความเกี่ยว ข้องมากที่สุดเอามาไว้ตอนบนสุดของรายชื่อที่แสดง

          การค้นหาในรูปแบบ Search Engine วิธีการอีกอย่างที่นิยมใช้การค้นหาข้อมูลคือการใช้ Search Engine ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่กว่า 70% จะใช้วิธีการค้นหาแบบนี้ หลักการทำงานของ Search Engine จะแตกต่างจากการใช้ Indexลักษณะของมันจะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มหาศาลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป บนInternet ไม่มีการแสดงข้อมูลออกมาเป็นลำดับขั้นของความสำคัญ การใช้งานจะเหมือนการสืบค้นฐานข้อมูลอื่นๆคือ คุณจะต้องพิมพ์คำสำคัญ (Keyword) ซึ่งเป็นการอธิบายถึงข้อมูลที่คุณต้องการจะเข้าไป ค้นหานั้นๆเข้าไป จากนั้น Search Engine ก็จะแสดงข้อมูลและ Siteต่างๆที่เกี่ยวข้องออกมา

 ข้อแตกต่างระหว่าง Index และ Search Engine คำตอบก็ คือวิธีในการค้นหาข้อมูลแบบ Index เค้าจะใช้คนเป็นผู้จัดรวบรวมและทำระบบฐานข้อมูลขึ้นมา ส่วนแบบ Search Engine นั้นระบบฐานข้อมูลของมันจะได้รับการจัดสร้างโดยใช้ Software ที่มี หน้าที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้โดยเฉพาะมาเป็นตัวควบคุมและจัดการ ซึ่งเจ้า Software ตัวนี้จะมี ชื่อเรียกว่าSpidersการทำงานข้องมันจะใช้วิธีการเดินลัดเลาะไปตามเครือข่ายต่างๆที่เชื่อมโยงถึง กันอยู่เต็มไปหมดในInternetเพื่อค้นหา Website ที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลงของ ข้อมูลใน Site เดิม ที่มีอยู่ ว่าที่ใดถูกอัพเดตแล้วบ้าง จากนั้นมันก็จะนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่สำรวจเข้ามา ได้เก็บใส่เข้าไปในฐานข้อมูลของตนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างของผู้ให้บริการประเภทนี้เช่น Excite , Lycos Infomercial เป็นต้น การค้นหาด้วยวิธี Search Engine นั้นมักจะได้ผลลัพธ์ออกมากว้างๆชี้เฉพาะเจาะจงได้ยาก บางครั้งข้อมูลที่ ค้นหามาได้อาจมีถึงเป็นร้อยเป็นพัน Site แล้ว มีใครบ้างหละที่อยากจะมานั้นค้นหาและอ่านดูที่จะเพจ ซึ่งคง ต้องเสียเวลาเป็นวันๆแน่ ซึ่งก็ไม่รับรองด้วยว่าคุณจะได้ข้อมูลที่คุณต้องการหรือไม่ ดังนั้นจึงมีหลักในการค้น หา เพื่อให้ได้ข้อมูลใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งจะขอกล่าวในตอนหลัง


3. ข้อควรระวังในการการสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง

ตอบ นสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไปผู้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิด
หรือก่อให้เกิดอันตรายได้ฉะนั้นเยาวชนไทยควรเรียนรู้ปัญหาและวิธีป้องกันตนเองจากภัยอันตรายเหล่านี้จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือปฏิบัติ  ดังนี้
         1) ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว  เช่น  ที่อยู่  เบอร์โทรศัพท์  ชื่อโรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต
         2) หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสมควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่
         3) ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน  และหากผู้ปกครองอนุญาต
ก็ควรไปพร้อมกับผู้ปกครอง และควรไปพบกันในที่สาธารณะ
         4) ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
         5) ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย  และต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่ 
         6) ควรคารพต่อข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เข้าได้

         ในด้านข้อเสีย  แพทย์พบว่าการเล่นเกมติดต่อกันครั้งละนานๆ  มีผลเสียต่อสุขภาพปัญหาที่พบบ่อยคือ  อาการล้าของสายตา กล้ามเนื้อที่แขนคอไหล่และหลังนอกจากนี้ยังพบอาการลมชักปวดศีรษะ ประสาทหลอน บางรายมีอาการรุนแรงเข้าขั้นประสาทและกล้ามเนื้อบางส่วนเสื่อมสภาพไปและเชื่อกันว่าการติดเกมเป็นสาเหตุทางอ้อมของโรคอ้วน  เด็กบางคนที่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมมากเกินไป จนไม่สนใจเพื่อนๆ  และสังคมรอบข้าง ในที่สุดจะกลายเป็นคนขี้อายและตัดขาดจากสังคมปัญหาอีกประการหนึ่งเกิดจากเกมประเภทที่มีการใช้ความรุนแรงเกมประเภทนี้ ทำให้เด็กมีนิสัยก้าวร้าว เข้ากันกับเพื่อนๆ  ไม่ได้ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของครูและผู้ปกครองจะต้องชี้แนะให้เด็กรู้ถึงข้อดีและข้อ เสียของการเล่มเกม  และแนะนำให้เด็กรู้จักเลือกเกมที่ให้ประโยชน์มากกว่าความสนุกเพียงอย่างเดียว 


4. จงกล่าวถึงรูปแบบการเผยแพร่สารสนเทศผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมา 2 รูปแบบ

ตอบ 1) การทำเว็บเพจ(WEB PAGE) ฝากไว้ในเว็บไซต์วิธีนี้ผู้ที่ทราบURLของเว็บเพจนั้นจะสามารถเข้าอ่านเอกสาร ที่เผยแพร่ได้โดยตรงหรือหากไม่ทราบURLแต่สามารถระบุคำสำคัญที่มีอยู่ในเว็บ เพจนั้น ก็อาจค้นหาผ่านโปรแกรมเรียกค้นข้อมูลได้จึงเป็นวิธีที่สามารถคาดหวังผลได้ มากที่สุด   

         2) บล็อก เป็นการฝากข้อเขียนที่มีลักษณะคล้ายสมุดบันทึกส่วนบุคคล เรื่องราวที่เขียนนั้นจะไม่จำเป็นต้องเป็นบันทึกประจำวันเท่านั้น แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่าน


5. ห้องสนทนาคืออะไร มีวิธีการใช้อย่างไร

ตอบ ห้องสนทนา (Chat room) เป็น ระบบที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารโต้ตอบกันด้วยการพิมพ์ข้อความ  ห้องสนทนาจะมีอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ มีทั้งแบบที่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกและแบบเปิดกว้างให้ผู้สนทนาเข้าไปโต้ ตอบกันได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็มี  
         วิธีการใช้
         รูปแบบหนึ่งของห้องสนทนาจะแบ่งจอภาพที่ปรากฎแก่คู่สนทนาเป็นกรอบบนและกรอบ ล่าง  กรอบบนเป็นข้อความที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างคนสองคน  ส่วนกรอบล่างสำหรับให้แต่ละฝ่ายพิมพ์ข้อความลงไป  เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม Send  ข้อความจะไปปรากฎบนให้คู่สนทนาให้ทั้งสองฝ่าย มองเห็นพร้อมกัน  การสนทนาครั้งละมากกว่า 2  คน ก็สามารถทำได้  ตามปกติในห้องสนทนาของเว็บไซต์ต่างๆ จะมีผู้ดูแลทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้มีการทำผิดกติกาที่กำหนดไว้ เช่น ไม่ให้ใช้คำที่หยาบคาย          
        นอกจากการสื่อสารด้วยการพิมพ์ข้อความแล้ว คู่สนทนายังสามารถพูดคุยกันได้  โดยเครื่องคอมพิมเตอร์ทั้งสองฝ่ายต้องมีไมโครโฟนและหูฟัง  พร้อมกับซอฟต์แวร์ที่จัดการด้านนี้โดยเฉพาะ  หากใช้ระบบปฎิบัติการ  Window XP จะมีโปรแกรมชื่อ  Window Messenger  สำหรับใช้พูดคุยกันได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นช่วย



6. เครือข่ายสังคมคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร จงยกมา 1 ตัวอย่าง
ตอบ เครือข่ายสังคมหรือชุมชนเว็บ (Social Network or Web community) รูปแบบของห้องสนทนาถูกพัฒนาต่อมา  เป็นการใช้เพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดต่อสื่อสารกัน  และมีการเลือกชื่อการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายในลับกษณะนี้ว่า   เครือข่ายสังคม (Social Network) หรือ ชุมชนเว็บ (Web Community) ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการประเภทนี้ ได้แก่
         1) ICQ   เป็นระบบรับส่งข้อความที่เน้นการหาคู่สนทนาที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน  ต่อมาได้ขยายบริการเป็นการสร้างกลุ่มผู้สนใจเรื่องเดียวกันที่จะมาพบปะกันบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
         2) Feadbook เป็น เว็บไซต์หาเพื่อนอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการใช้รูปใบหน้าของผู้ต้องการหา เพื่อนเป็นสื่อเริ่มต้นสำหรับทำความรู้จัก  ผู้หาเพื่อนจะจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล Personal Profile) พร้อมกับรูปใบหน้าของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์  ปัจจุบันเว็บไซต์นี้ให้บริการหลากหลายรูปแบบ  ทั้งห้องสนทนา  กระดานข่าวสาร  กลุ่มหรือชุมชนเฉพาะด้าน
         3) Hi5 เป็น เว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่สนับสนุนให้ผู้ใช้สร้างกลุ่มสังคมของตนเองขึ้นมา โดยจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Profile) พร้อมกับรูปกิจกรรมของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์และเชิญชวนคนที่ตนรู้จักให้เข้ามา เยี่ยมชมและเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบของข้อความสั้นและ ภาพกิจกรรม
         4)Twitter  เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในรูปแบบที่ผู้ที่ริเริ่มจัดทำหน้าข้อมูลส่วน บุคคล (Profile Page) ของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์ พร้อมกับข้อความสั้น (Microblog)  ที่อาจเผยแพร่ทั่วไปหร์อเผยแพร่เฉพาะภายในกลุ่มสมาชิกตามความเหมาะสมของผู้ ริเริ่ม  ผู้ที่เข้าไปอ่านสามารถแสดงความคิดเห็นโดยพิมพ์เป็นข้อความสั้นไปฝากไว้
ประโยชน์ของเครือข่ายสังคม เช่น เป็นเครือข่ายที่เป็นการใช้งานเพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดที่ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและไม่เสียเวลา



Wednesday, December 26, 2012

โครงงาน: แตกแขนงสาขาอาชีพ


บทที่ 1
บทนำ

ชื่อโครงงาน อาชีพที่หลากหลาย
ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
1.   เด็กชาย พศิน           เกวี               เลขที่ 7       ระดับชั้น ม.2/2
2.   เด็กหญิง ชัญญานุช    อุปคุต             เลขที่ 16     ระดับชั้น ม.2/2
3.   เด็กหญิง เบญญา       รัตนชมภู         เลขที่ 22     ระดับชั้น ม.2/2
4.   เด็กหญิง สุวัจนี         สุโพธิ์ภาคสกุล   เลขที่ 29     ระดับชั้น ม.2/2
โรงเรียนตากพิทยาคม อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
ปีการศึกษา 2555 ภาคเรียนที่ 2
ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน อาจารย์อรวรรณ เนื่องเผือก
1.1  ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
คนไทยแต่ละภูมิภาครับประทานอาหารว่างแตกต่างกัน ตามลักษณะพื้นที่ดินฟ้าอากาศ และความอุดมสมบูรณ์ เช่น พวกที่อยู่บริเวณที่มีอากาศหนาวจะรับประทานอาหารว่างอีกแบบหนึ่ง และบริเวณที่มีอากาศร้อนก็รับประทานอาหารว่างอีกแบบหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น อาหารว่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีรสชาติจัดจ้าน เพราะสภาพภูมิอากาศบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูง เป็นต้น เมื่อกล่าวถึงอาหารว่างที่คนภาคเหนือและภาคกลางนิยมรับประทานกัน คือ เมี่ยงคำ เมื่อคณะผู้จัดทำได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลแล้ว เมี่ยงคำที่มีชื่อเสียงและมีการรับประทานที่แตกต่างจากแห่งอื่นๆ คือ เมี่ยงคำเมืองตาก หรือเมี่ยงจอมพล
          จากนั้นคณะผู้จัดทำจึงได้มีการปรึกษาหารือกันว่าเมี่ยงคำเมืองตาก นอกจากสามารถสร้างอาชีพที่สุจริตได้หนึ่งอาชีพแล้ว นั่นคือ อาชีพคนขายเมี่ยงคำเมืองตาก และยังสามารถสร้างอาชีพอื่นๆ ได้อีกหรือไม่ คณะผู้จัดทำมีความสนใจ และจึงจัดทำโครงงานบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องอาชีพที่หลากหลาย
1.2 วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน
1.      เพื่อศึกษาค้นคว้าข้อมูลเรื่องเมี่ยงคำเมืองตาก หรือเมี่ยงจอมพล
2.      เพื่อทราบอาชีพอื่นๆ จากเมี่ยงคำเมืองตาก
3.      สร้างทางเลือกให้แก่ผู้ที่ว่างงาน
1.3 ระยะเวลาดำเนินการ 2 สัปดาห์ 2 วัน
1.4 สถานที่ศึกษาค้นคว้า ห้องสมุดโรงเรียนตากพิทยาคม


1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.      ทราบอาชีพอื่นๆ จากเมี่ยงคำเมืองตาก
2.      เกิดกระบวนการการทำงานเป็นหมู่คณะ
3.      การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้รู้จักเมี่ยงคำเมืองตาก


 บทที่ 3
วิธีดำเนินการ

ตารางดำเนินโครงงาน วันที่ 26 พฤศจิกายน  - 7 ธันวาคม  2555
ลำดับที่
กิจกรรมที่ปฏิบัติ
ระยะเวลา
ผู้รับผิดชอบ
1
ปรึกษากันภายในกลุ่ม

2 วัน
เด็กชาย พศิน
เด็กหญิง ชัญญานุช
เด็กหญิง เบญญา
เด็กหญิง สุวัจนี
2
ค้นคว้าศึกษาข้อมูล
4 วัน
เด็กหญิง เบญญา
เด็กหญิง สุวัจนี
3
เสนอความคิด และขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษา
3 วัน
เด็กชาย พศิน
เด็กหญิง ชัญญานุช
เด็กหญิง เบญญา
เด็กหญิง สุวัจนี
อาจารย์อรวรรณ
4
รวบรวมผลการค้นคว้า
3 วัน
เด็กชาย พศิน
เด็กหญิง ชัญญานุช
เด็กหญิง สุวัจนี
5
จัดทำรูปเล่มโครงงาน
4 วัน
เด็กหญิง สุวัจนี

3.1 วิธีดำเนินการ
ขั้นตอนแรก ปรึกษากันภายในกลุ่ม
มีการแบ่งหน้าที่กันดำเนินการ และตั้งชื่อโครงงานให้เหมาะสมกับสิ่งที่คณะผู้จัดทำต้องการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล
ขั้นตอนที่สอง ค้นคว้าศึกษาข้อมูล
ช่วยกันค้นคว้าหาข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ขั้นตอนที่สาม เสนอความคิด และขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษา
แบ่งปันความคิด แสดงความคิดเห็น และขอคำปรึกษาจากอาจารย์อรวรรณ เนื่องเผือก
ขั้นตอนที่สี่ รวบรวมผลการค้นคว้า
รวบรวมผลการดำเนินการ
ขั้นตอนที่ห้า จัดทำรูปเล่มโครงงาน
            ดำเนินการเขียนเป็นรูปล่มโครงงานวิจัย 5 บท
3.2 ผลการดำเนินการ
1.      ทราบอาชีพอื่นๆ จากเมี่ยงคำเมืองตาก
2.      การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้รู้จักเมี่ยงคำเมืองตาก




บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ

5.1 สรุปผลการดำเนินการ
          จากการดำเนินการจัดทำโครงงานเรื่องอาชีพที่หลากหลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงงานบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รายวิชาแนะแนว การศึกษาค้นคว้าเรื่องอาชีพที่หลากหลายจากเมี่ยงคำเมืองตาก ที่นอกจากอาชีพการขายเมี่ยงคำเมืองตากตามตลาด คณะผู้จัดทำคิดว่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่มาจากส่วนประกอบของเมี่ยงคำเมืองตาก และแบบที่มาจากส่วนประกอบของเมี่ยงคำเมืองตากเป็นผู้ประกอบอาหาร
          ดังนั้นคือเมี่ยงคำเมืองตากสามารถทำให้เกิดการสร้างอาชีพได้หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น คนสวน คนขายเต้าเจี้ยว คนขายส้มตำ เป็นต้น

5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ
1.      ข้อมูลเกี่ยวกับเมี่ยงคำเมืองตากไม่เพียงพอ
2.      มีเวลาดำเนินการน้อยมาก
3.      ระบบการทำงานเป็นกลุ่ม

5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
          1.   สอบถามจากผู้รู้เพิ่มขึ้นอีก
          2.   แบ่งเวลาให้เหมาะสม
          3.   ควรหาเวลาปรึกษาหารือกันระหว่างดำเนินการ